Sightseeing Spots - Travel Dialysis in Osaka,

閉じる
line instagram youtubefacebook
  • แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่สนใจในโอซาก้า เกียวโต โกเบ

โอซาก้า

  • ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

  • ปราสาทโอซาก้า ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1583 โดยโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้รวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวในสมัยนั้น แต่ตัวปราสาทก็ถูกทำลายลงในช่วงระหว่างสงครามต่าง ๆ ภายหลังด้วยความร่วมมือร่วมใจของผู้คนในโอซาก้า ปราสาทโอซาก้าจึงได้รับการบูรณะให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ในปีค.ศ.1931 โดยในปัจจุบัน ปราสาทโอซาก้า ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของจังหวัดโอซาก้า

                                         

Web Site

https://www.osakacastle.net/

การเดินทาง

  • นั่งรถไฟสาย Osaka Loop Line จากสถานีโอซาก้า มาลงที่สถานีโอซาก้าโจโคเอ็น (Osakajo-koen) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
  • นั่งแท็กซี่ประมาณ 15 นาทีจากสถานีโอซาก้า



พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium KAIYUKAN)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านการจัดแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ ความพิเศษที่จัดเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ โซนมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Ocean) ที่มีตู้โชว์ขนาดใหญ่ มีความลึกมากถึง 9 เมตร และจุน้ำได้ถึง 5,400 ตัน โดยพระเอกภายในตู้โชว์ขนาดยักษ์นี้คือ ปลาที่ถูกจัดว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างฉลามวาฬ แหวกว่ายไปมาให้เราได้ชม

                                         

Web Site

https://www.kaiyukan.com/language/thai/

การเดินทาง

  • นั่งรถไฟสาย Osaka City Subway Chuo line ลงที่สถานี Osakako เดินต่อประมาณ 11 นาที

                                 

ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอเจแปน (Universal Studios Japan)

Universal Studios Japan (USJ) สวนสนุกแห่งแรกในเอเชียของ Universal Studios ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในปีค.ศ.2001 สวนสนุกที่จะพาคุณไปสัมผัสโลกของเกม อนิเมะ และภาพยนตร์ฮอลลีวูด เป็น 1 ใน 2 ธีมพาร์คที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นพอๆ กับโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) และดิสนีย์ซี (DisneySea) โดยภายในมีเครื่องเล่นยอดฮิตต่าง ๆ ที่จำลองมาจากเกม อนิเมะ และภาพยนตร์ ยกตัวอย่างเช่น โซน Super Nintendo World, โซน Jurassic Park - The Ride และโซน The Wizarding World of Harry Potter เป็นต้น

                                         

Web Site

https://www.usj.co.jp/web/en/us

การเดินทาง

  • นั่งรถไฟสาย JR Osaka Loop Line ลงสถานีที่ Nishikujo แล้วเปลี่ยนเป็นสาย JR Yamesaki Line ลงสถานี Universal-city Station เดินต่อประมาณ 10 นาที
  • นั่งเรือ Captain Line เดินทางระหว่าง Osaka Aquarium และ Universal Studios Japan

                          

    ตลาดคุโรมง (Kuromon Market)

    ตลาดคุโรมง ตั้งอยู่ในย่านมินามิ ใจกลางโอซาก้า ตลาดปลาโอซาก้าแห่งนี้ที่มีความเป็นมาอย่างยาวนาน เป็นตลาดเก่าแก่เป็นอันดับต้นๆ แห่งหนึ่ง ที่นี่เป็นแหล่งรวมวัตถุดิบคุณภาพของโอซาก้าและแถบข้างเคียง จนได้รับสมญานามว่าเป็น “ครัวแห่งโอซาก้า” นอกจากวัตถุดิบและของสดแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร สตรีทฟู้ด ร้านขายของกินของฝาก เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับสายกินแห่งหนึ่งของโอซาก้ากันเลยทีเดียว

                                             

    Web Site

    https://kuromon.com/en/

    การเดินทาง

    • นั่งรถไฟ Osaka Metro สาย Sennichimae Line ลงสถานี Nippombashi เดินต่อประมาณ 5 นาที

    •                                          

     

    • เกียวโต

    • ย่านกิออน (Gion)

    • ย่านกิออน เป็นย่านที่มีเสน่ห์ของบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นโบราณ และยังมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมโดยจะมีเกอิชา (Geisha) ในชุดกิโมโนดั้งเดิมที่มีความสวยงาม ชำนาญทางด้านศิลปะ ทำหน้าที่ดูแลแขกในร้านน้ำชาที่เปิดในย่านแห่งนี้ นอกจากความโดดเด่นทางด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมแล้ว ย่านกิออนยังมีการจัดงานเทศกาลกิออน (Gion matsuri) ซึ่งเป็นงานเทศกาลที่ดังที่สุดในญี่ปุ่นทุกปีในเดือนกรกฎาคมอีกด้วย
    •                                          
    • การเดินทาง

      • นั่งรถไฟสาย Keihan Main Line มาลงที่สถานี Gion-Shijo เดินต่อประมาณ 5 นาที
      • นั่งรถไฟสาย Hankyu Kyoto Line มาลงที่สถานี Kyoto-Kawaramachi เดินต่อประมาณ 10 นาที

                                              

    วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera)

    Kiyomizu-dera หรือที่คนไทยมักรู้จักกันในชื่อ “วัดน้ำใส” เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองเกียวโต มายาวนานกว่า 1,000 ปี ตั้งอยู่บนภูเขาโอตาวะในเขตฮิกาชิยามะ ชื่อวัดมีที่มาจากน้ำ 3 สายที่ไหลลงมาจาก น้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ที่ไหลผ่านตัววัด โดยไฮไลท์ของที่นี่คือ อาคารไม้ที่สูงจากพื้นดินประมาณ 12 เมตร สร้างโดยใช้วิธีเอาไม้เข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาญี่ปุ่นโบราณ โถงอาคารถูกสร้างให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองเกียวโตได้ทั้งหมด ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของเกียวโตอีกด้วย โดยวัดน้ำใสได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปีค.ศ.1994

                                             

    • Web Site

      https://www.kiyomizudera.or.jp/en/

      การเดินทาง

      • นั่งแท็กซี่ประมาณ 20 นาที จากสถานีเกียวโต

                                              

    วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)

    วัดคินคะคุจิ หรือที่คนไทยมักรู้จักในชื่อ "วัดทอง" เป็นวัดพุทธนิกายเซ็น ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกียวโต วัดคินคะคุจิมีจุดเด่นอยู่ที่ศาลาสีทองโดดเด่นริมน้ำ วัดคินคะคุจิถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1397 เพื่อเป็นที่พำนักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิตสึ ภายหลังได้อุทิศให้เป็นวัดในนิกายเซ็นหลังท่านเสียชีวิต ตัวศาลาเคยเสียหายจากเหตุการณ์เพลิงไหม้หลายครั้ง ตัวศาลาในปัจจุบันนั้นได้รับการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1955 มีทั้งหมด 3 ชั้น โดย 2 ชั้นบนมีการปิดด้วยทองคำเปลวจนเป็นสีทองอร่าม ส่วนชั้นล่างเป็นโครงสร้างไม้และปิดผนังสีขาวตามแบบฉบับวัดเซ็น วัดคินคะคุจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี ค.ศ.1994

                                             

    • Web Site

      https://www.shokoku-ji.jp/en/kinkakuji/

      การเดินทาง

      • จากสถานี Kyoto นั่งรถบัสสาย 205 ลงที่ป้าย Kinkakuji-michi เดินต่อประมาณ 5 นาที

                                             

    ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)

    ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ เริ่มสร้างครั้งแรกที่ภูเขาอินาริ ในปีค.ศ.711 โดยตัวศาลเจ้าถูกสร้างขึ้นมาก่อนที่เมืองเกียวโตจะกลายเป็นเมืองหลวงเสียอีก ศาลเจ้านี้อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์จากองค์พระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นมาตั้งแต่ในสมัยเฮอัน เสาโทริอิขนาดมหึมาบริเวณทางเข้าศาลเจ้า ก็มีที่มาจากการบริจาคจากเหล่าขุนนาง และจากไดเมียวคนสำคัญต่าง ๆ จนกลายเป็นไฮไลท์สำคัญของที่นี่อย่าง เสาโทริอิพันต้น หรือ เซมบงโทริอิ ซึ่งความเป็นจริงแล้วมีมากกว่า 3 หมื่นต้น ตั้งเรียงรายกันจนกลายเป็น อุโมงค์เสาโทริอิที่มีความยาวถึง 4 กิโลเมตร

                                             

    • Web Site

      https://inari.jp/en/

      การเดินทาง

      • นั่งรถไฟสาย JR Nara ติดกับสถานี Inari
      • นั่งรถไฟสาย Keihan Main Line ลงสถานี Fushimiinari เดินต่อประมาณ 5 นาที
    •                                          

    •                                          

     

    • โกเบ

    ย่านนันกิงมะจิ Nankinmachi China Town

    ย่านนันกิงมะจิ หรือที่คนมักจะรู้จักกันในชื่อ ไชน่าทาวน์แห่งโกเบ เป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรม ร้านอาหาร ร้านค้า และวัดแบบจีนที่บูชาเทพเจ้ากวนอู ย่านนันกิงมะจิ ถือกำเนินขึ้นในปีค.ศ.1868 เมื่อชาวจีนจากมณฑลกวางตุ้งกับมณฑลฝูเจี้ยนอพยพมาอยู่อาศัยที่โกเบ ซึ่งคนโกเบในสมัยนั้นมักเรียกคนจีนที่อพยพเข้ามาอาศัยว่า "คนหนานจิง" จนกลายเป็นที่มาของชื่อ นันกิงมะจิ ที่แปลว่าเมืองของคนหนานจิงนั่นเอง ย่านนี้เป็นย่านขึ้นชื่อเรื่องอาหารจีน และสตรีทฟู้ดให้ลิ้มลองมากมาย

    • Web Site

      https://www.nankinmachi.or.jp/

      การเดินทาง

      • นั่งรถไฟ JR Kobe Line ลงที่สถานี Motomachi เดินต่อประมาณ 4 นาที

       

    โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ Kobe Harborland

    โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมอ่าวในเมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นหนึ่งในย่านที่รวมแหล่งความบันเทิงต่าง ๆ เอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร, แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่, พิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ อย่างพิพิธภัณฑ์เด็กอันปังแมน หรือพิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์โกเบ รวมถึงยังเป็นที่ตั้งแลนด์มาร์คสำคัญ ๆ เช่น ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ (Mosaic Ferris Wheel) หรือ หอคอยชมวิวอย่าง โกเบ พอร์ต ทาวน์เวอร์ (Kobe Port Tower) นอกจากนี้ยังสามารถล่องเรือสำราญ (Kobe Cruise Concerto) ชมบรรยากาศอันงดงามริมอ่าวโกเบได้อีกด้วย 

    • Web Site

      https://harborland.co.jp.e.abt.hp.transer.com/

      การเดินทาง

      • นั่งรถไฟสาย JR Kobe หรือ Subway Kaigan Line ลงที่สถานี Harbor Land เดินต่อประมาณ 6 นาที หรือนั่งรถบัส City loop ลงที่ Kobe Harborland Umie ใช้เวลาประมาณ 1 นาที

       

    อาริมะออนเซ็น Arima Onsen

    อาริมะออนเซ็น เป็นเมืองออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ว่ากันว่ามีมาตั้งแต่ 1,000 กว่าปีก่อน อาริมะออนเซ็นนั้นมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก มีระยะทางเพียงประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ก็ยังคงรายล้อมไปด้วยที่พักออนเซ็น และร้านค้าต่าง ๆ มากมาย จุดเด่นของอาริมะออนเซ็นก็คือ น้ำร้อนที่มีคุณสมบัติพิเศษอย่าง บ่อน้ำพุร้อนทอง (Kinsen) ที่มีเกลือโซเดียมไฮดรอกไซด์ที่เป็นธาตุเหล็กสูงทำให้เมื่อทำปฏิกิริยากับอากาศน้ำพุร้อนจึงกลายเป็นสีทอง มีคุณสมบัติในการรักษาอุณหภูมิ และสามารถฆ่าเชื้อต่าง ๆ ได้ ช่วยรักษาอาการหนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ ทั้งยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

    • Web Site

      https://www.arima-onsen.com/

      การเดินทาง

      • นั่งรถบัสด่วนพิเศษ Hankyu Express Bus ลงป้าย Arima Onsen
      • นั่งรถบัสด่วนพิเศษ JR Express Bus "Arima Express Go" ลงป้าย Arima Onsen เดินต่อประมาณ 5 นาที

       

    สวนซูมะริคิว Suma Rikyu Park

    สวนซูมะริคิว เป็นสวนที่เหมาะกับการมาเดินเล่นผ่อนคลายอารมณ์ ท่ามกลางลานน้ำพุและสวนพฤกษศาสตร์ที่กว้างขวาง มีดอกไม้บานสวยงามให้ชมตลอดทุกฤดู สวนแห่งนี้มีความพิเศษเนื่องจากเคยเป็นหนึ่งในบ้านพักตากอากาศของเชื้อพระวงศ์ ทำให้ที่นี่ยังหลงเหลือกลิ่นอายความหรูหราให้เราสัมผัสได้ มีอาคารที่จำลองมาจากปราสาทของฝั่งยุโรป ลานน้ำพุขนาดใหญ่ และสวนกุหลาบที่รวบรวมกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ไว้ ให้บรรยากาศเหมือนหลุดไปเดินเล่นในประเทศฝั่งยุโรป นอกจากนี้ ภายในยังมีการแบ่งพื้นที่เป็นสนามเด็กเล่นให้เด็ก ๆ สามารถวิ่งเล่นได้อย่างเต็มที่ และผู้ปกครองก็สามารถดื่มด่ำกับความสวยงามภายในสวนได้

    การเดินทาง

    • นั่งแท็กซี่ 5 นาทีจากสถานี JR Suma

       

    Kobe  Animal Kingdom

    Kobe Animal Kingdom เป็นสวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์ ตั้งอยู่ที่ Port Liner ห่างจาก Sannomiya ประมาณ 15 นาที ที่นี่แบ่งออกเป็นโซน Indoor และโซน Outdoor โดยในโซน Indoor คุณสามารถสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์น่ารัก ๆ อย่างคาปิบาราได้ ส่วนทางด้านโซน Outdoor เองก็กิจกรรมน่าสนใจต่าง ๆ เช่น การขี่อูฐ หรือการให้อาหารนกเพนกวิน ให้ได้ลองเปิดประสบการณ์ใหม่เช่นกัน มีการการจำลองถิ่นที่อยู่ของสัตว์ต่าง ๆ ทำให้คุณสามารถชมน้อง ๆ ที่มีชีวิตชีวาได้อย่างใกล้ชิด ตัวสวนมีการออกแบบให้สามารถรองรับได้ทุกสภาพอากาศ ทำให้สามารถเข้าชมได้แม้ในวันที่ฝนตก 

    มาเปิดโลกใหม่พร้อมฮีลใจด้วยน้องสัตว์แสนน่ารักกันเถอะ

    • Web Site

    https://en.kobe-oukoku.com/

    การเดินทาง

    • นั่งแท็กซี่ 15 นาที จากสถานี JR Sannomiya
    • เดิน 3 นาที จากสถานี Keisan Kagaku Center

    ↑